รายละเอียดคอร์ส
สอนกระบวนการคิดเชิงวิพากย์ ช่วยให้คุณตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว ดำเนินชีวิตได้อย่างมีเหตุมีผล
Critical Thinking การคิดด้วยวิจารณญาณเชิงวิพากษ์ …ด้วยคำถามที่ควรถามตัวเองก่อนจะเชื่อ... เพื่อไม่ให้หลงผิด!!!
ทำไมต้องสนใจคอร์สนี้... มันมีปัญหาอะไรกันเหรอ?
หากคุณอยู่ในโลกที่รับข่าวสารต่างๆ ในโลกปัจจุบันเช่นเดียวกับผม เราคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สิ่งที่ถาโถมเข้ามาสู่การรับรู้ของเรานั้นมันมากมายมหาศาล
ไม่ว่าจะมาจากสื่อยุคใหม่เช่น จาก LINE ที่แชร์ๆผ่านมากันมามากมาย เพิ่มเติมจากสื่อเดิมๆที่เราดูกันทางทีวี รวมถึงเรื่องราวที่เล่าสู่กันฟังในหมู่ผู้ร่วมงานและสมาชิกในครอบครัว
ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารทางเศษฐกิจ สังคม และการเมือง
เช่นข่าวสารทางเศษฐกิจที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจในด้านการทำงาน หรือด้านการลงทุน
หรือจะเป็นคำชักชวนให้เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง ทั้งจากฝ่ายที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง และจากฝ่ายที่ไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลง
หรือแม้กระทั่งการขายสินค้าที่ศิลปินดารานักร้องออกมายืนยันว่าสินค้านี้ใช้แล้วสวย วัตถุนี้มีไว้แล้วรวย อาหารเสริมนี้สั่งซื้อทานแล้วทำให้สุขภาพแข็งแรง
คุณเคยลังเลว่าเราควรเชื่อข่าวสารเหล่านั้นหรือไม่?
หลายครั้งผมเองก็ไม่แน่ใจว่าควรเชื่อหรือไม่ จึงไม่มั่นใจที่จะตัดสินใจต่อไป
หลายครั้ง ผมเองก็ตัดสินใจผิด เสียเงิน เสียเวลา เสียหน้า เสียเพื่อน เสียครอบครัว
หรือคุณเคยพยายามลองถามความเห็นจากคนอื่นบ้างหรือไม่?
ผมเคย และพบว่าความเห็นที่ได้มาก็อาจได้มาจากกระบวนการคิดที่ไม่ได้แยบยลสักเท่าไหร่
หรือคุณเคยสงสัยมั้ยว่า มันมีหลักหรือมีศาสตร์ใดในการคิดที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ให้เราบ้างหรือไม่?
ผมก็เคยสงสัย ผมก็เลยค้นคว้า ผมจึงค้นพบศาสตร์ที่ชื่อว่า Critical Thinking หรือการคิดเชิงวิพากย์
นั่นจึงเป็นที่มาของหลักสูตรนี้ที่ชื่อว่า “Critical Thinking การคิดด้วยวิจารณญาณเชิงวิพากษ์”
จุดเด่นที่ทำให้คอร์สนี้แตกต่าง
- เป็นสิ่งที่นำไปใช้ได้จริง เพราะผมได้ทดลองนำไปใช้คิดจริง และได้ปรับสิ่งที่เป็นทฤษฎีหนักๆ ให้เป็นการปฏิบัติแบบเบาๆ ก่อนที่จะนำมาเผยแพร่ต่อ
- เป็นสิ่งที่แก้ปัญหาได้จริง เพราะมันเป็นหลักและวิธีคิดที่ทำได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องไปพึ่งใครคนอื่น ซึ่งอาจมีบริบทต่างๆไม่เหมือนของเรา
- เป็นสิ่งที่เข้าทางการคิด เพราะเป็นการคิดด้วยการตั้งคำถาม ซึ่งจะทำให้เราค่อยๆคิดหาคำตอบ สอดคล้องกับธรรมชาติของการคิดเอง
นั่นจึงเป็นที่มาของคำสร้อยของหลักสูตร ที่ว่า “ด้วยคำถามที่ควรถามตัวเองก่อนจะเชื่อ เพื่อไม่ให้หลงผิด”
ประโยชน์ที่ผู้เรียนจะได้รับจากการเรียนคอร์สนี้
ประโยชน์ต่อชีวิตการทำงาน
- ตัดสินใจในเรื่องงานได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว เพราะช่วยให้เกิดการกรั่นกรองข้อมูลข่าวสาร ที่จะเป็นเสมือนวัตถุดิบที่จะนำเข้าสู่กระบวนการคิดตัดสินใจได้อย่างมีหลักการและสมเหตุสมผล
- สร้างความน่าเชื่อถือในการทำพรีเซ็นเตชั่น และส่งผลให้ได้รับการอนุมัติจากการนำเสนอความคิด
- ประสบความสำเร็จในการนำสิ่งที่ตัดสินใจไปลงมือปฏิบัติ เพราะไม่มีสิ่งมี่ติดขัด อันเป็นผลมาจากการคิดที่ครบถ้วนทุกมิติ
ประโยชน์ต่อชีวิตตนเอง
- ช่วยให้ดำเนินชีวิตได้อย่างมีเหตุมีผล ส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี การเงินมั่นคง
- มีชีวิตที่มีสมดุลย์ของความคิดและความรู้สึก ของเหตุผลและอารมณ์ ทำให้หัวสมองปรองดองกับหัวใจได้อย่างกลมกลืน
- มีความสุข เพราะดำเนินชีวิตจากหลักการที่สร้างความมั่นใจในการคิดที่รอบคอบ และตัดสินใจไม่พลาด
ประโยชน์ต่อผู้อื่น
- ช่วยให้ครอบครัวอบอุ่นไม่แตกแยกทางความคิด เพราะสามารถนำคำถามต่างๆไปใช้กับลูกหลานคนรุ่นใหม่ให้เกิดการฉุกคิดได้ด้วยตัวเค้าเองโดยไม่ต้องทะเลาะเบาะแว้ง
- ช่วยให้มีสัมพันธภาพที่ดีกับคนในสังคมรอบๆตัว เพราะสามารถช่วยให้ผู้อื่นคิดต่างได้ด้วยการถาม ซึ่งไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งทางความคิด
คอร์สนี้เหมาะกับใคร
เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน คอร์สนี้จึงเหมาะกับ “ทุกคน” ที่เปิดหูเปิดตารับข้อมูลข่าวสาร ดังเช่นที่คนปกติทั่วๆไปรับอยู่
อีกทั้งยังเหมาะกับเจ้าของกิจการผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศน์และเป็นหัวเรือใหญ่ของธรกิจที่นำพากิจการไปสู่ความสำเร็จในอนาคต
เหมาะกับองค์กรที่ปราถนาให้ผู้บริหารในองค์กรมีความชัดเจนในการคิด และสร้างศรัทธาและความน่าเชื่อถือให้กับบุคคลรอบตัว ทั้งกับหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง ลูกค้า คู่ค้า และผู้ถือหุ้น
เหมาะกับพนักงานในกลุ่ม knowledge worker ที่ต้องมีความแยบคมทางความคิด
เหมาะกับพ่อแม่ผู้ปกครองที่ปราถนาความสุขสงบอบอุ่นในครอบครัว และต้องการพัฒนาทักษะการคิดให้กับลูกหลาน
และที่สำคัญที่สุด คือเป็นผู้ที่ใฝ่รู้ เป็นผู้ที่มีทัศนคติเสมือนตนเป็นตุ่มที่น้ำยังไม่เต็ม จึงเปิดรับกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ที่จำเป็นต่อการอยู่ในโลกปัจจุบันอย่างรู้ทันการเปลี่ยนแปลงและความเป็นไป
ผู้เรียนต้องมีความอะไรมาก่อนหรือไม่ หรือต้องทำอะไรก่อนถึงจะสามารถเรียนคอร์สนี้ได้
ผู้เรียนไม่จำเป็นต้องมีความรู้อะไรเป็นพื้นฐานเลย เพราะวิทยากรจะเริ่มด้วยการปูพื้นฐานให้ด้วยเลยตั้งแต่บทต้นๆ
ไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาระดับสูง เพราะเนื้อหาไม่มีการคำนวนใดๆ ไม่มีการอ้างถึงทฤษฎีเดิมๆ แต่จะเป็นการเสนอวิธีคิดใหม่ๆ
และไม่จำเป็นต้องเก่งภาษาอังกฤษเลย เพราะวิทยากรแปลมาให้เสร็จเรียบร้อยโรงเรียนไทย