4 ขั้นตอนการเรียนรู้ พาคุณจากมือใหม่สู่ผู้เชี่ยวชาญ
ลองจินตนาการว่าถ้าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกเรื่องบนโลก
ทั้งดนตรี ศิลปะ กีฬา ทักษะในการทำงาน และโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ทุกบริษัทในโลกนี้คงจะตามหาตัวคุณ
คุณกำหนดรายได้และชีวิตของตัวเองได้สบายๆ เพราะมีคนที่ต้องการความสามารถของคุณมากมาย
ถ้าเป็น 20-30 ปีที่แล้ว ที่พูดมาคงเป็นเรื่องเพ้อฝัน เพราะการเข้าถึงความรู้นั้นยังทำได้ไม่ง่าย
แต่ปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องเกินความจริงแต่อย่างใด
ด้วยเทคโนโลยี เราสามารถเข้าถึงข้อมูลความรู้ได้ง่ายขึ้นมาก
ทำให้การพัฒนาตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องที่เราอยากจะเป็น ก็ง่ายขึ้นเช่นกัน
วันนี้ผมมี 4 ขั้นตอนการเรียนรู้ ที่จะพาคุณจากมือใหม่สู่ผู้เชี่ยวชาญ มาเล่าให้ฟัง
ก่อนอื่น ผมอยากให้คุณตอบคำถามนี้ให้ได้ก่อนว่า
"ความรู้หรือทักษะอะไรที่ฉันอยากพัฒนา ที่สำคัญที่สุดกับเป้าหมายชีวิตของฉันในตอนนี้"
เพราะผมจะถามคำถามชวนคิดให้คุณตอบไปพร้อมๆกับผม
เพื่อที่จบบทความนี้ คุณจะได้คำตอบที่ทำให้คุณเริ่มต้นได้ทันที
ถ้าตอบได้แล้ว ก็มาเริ่มกันเลยครับ
1. เข้าหาผู้เชี่ยวชาญ
ถ้ามีคนมาถามผมว่า ถ้าให้แนะนำเพียงอย่างเดียว ทำให้คนที่เป็นมือใหม่เป็นผู้เชี่ยวชาญได้เร็วที่สุด จะบอกว่าอะไร
ผมจะตอบว่า อยากเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องใด ให้ไปหาผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น
เพราะการเรียนรู้จากประสบการณ์คนอื่น ทำให้เราไม่ต้องไปลองผิดลองถูกเอง
- ผู้เชี่ยวชาญเข้าใจและบอกคุณได้ว่าส่วนไหนเป็นพื้นฐาน ส่วนไหนเป็นการต่อยอด เรียงลำดับการเรียนรู้ให้คุณได้
- ผู้เชี่ยวชาญสามารถชี้ให้เห็น 'กับดัก' ระหว่างทางที่คุณต้องเจอ เป็นเรื่องเล็กๆที่แยกระหว่างมือสมัครเล่นกับมืออาชีพในเรื่องนั้น
- ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบผลลัพธ์ที่คุณทำ ให้ Feedback คือจุดดี และจุดที่ควรปรับปรุงกับคุณได้
ผู้เชี่ยวชาญที่คุณไปหา อาจไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดในโลก ไม่ต้องมีชื่อเสียงโด่งดัง
แต่เป็นคนที่มีความสามารถจริง และพร้อมที่จะให้คำแนะนำกับคุณ
ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเขียนบทความ หรือสอนคอร์สออนไลน์ของตัวเองในเรื่องที่ถนัด
ซึ่งคุณสามารถส่งข้อความไปหาคนเหล่านี้ได้โดยตรง
คำถามชวนคิด
"ฉันจะเข้าหาผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ได้อย่างไร"
2. เอาไปใช้ ลงมือทำทันที
เมื่อคุณฟัง ดูหรืออ่าน ความรู้ที่คุณได้รับมาเรียกว่า Secondary Knowledge หรือความรู้มือสอง เป็นความรู้ที่ได้จากคนอื่น
การนำไปใช้ จะเปลี่ยนความรู้นั้นให้เป็นประสบการณ์ตรงของตัวคุณเอง หรือเรียกว่า Primary Knowledge
ซึ่งสองอย่างนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
เหมือนเราจะเข้าใจว่าความรู้สึกเผ็ดเป็นอย่างไร ก็ต่อเมื่อเราเคี้ยวพริก
เราจะเข้าใจการว่ายน้ำ ก็ต่อเมื่อเรากระโดดลงสระ
เช่นกัน คุณจะเข้าใจสิ่งที่คุณเรียนจริงๆ เมื่อคุณนำไปปฏิบัติจนเกิดเป็นประสบการณ์
เพราะความรู้บางอย่างจะเกิดขึ้นขณะที่คุณลงมือทำเท่านั้น
คำถามชวนคิด
"ฉันจะนำสิ่งที่เรียนมาไปใช้ทันทีอย่างไร"
3. สอนคนอื่นต่อ
ทฤษฎี Learning Pyramid ที่เป็นที่รู้จัก กล่าวไว้ว่า เราจะเรียนรู้ได้แค่ 5% จากการนั่งฟังในห้องเรียน
10% จากการอ่าน และ 20% ถ้ามีสื่อที่เป็นภาพและเสียง
แต่เราจะเรียนรู้ได้ถึง 90% จากการนำความรู้นั้นไปสอนผู้อื่นต่อ
เพราะการถ่ายทอดให้คนอื่นเข้าใจได้นั้น เราจำเป็นต้องเข้าใจในเรื่องนั้นก่อน
และความเข้าใจ ที่จะทำให้คุณสื่อสารออกมาได้ดี เกิดจากการนำไปใช้ปฏิบัติจนเกิดประสบการณ์นั่นเอง
คุณอาจจะสอนเพื่อนหรือรุ่นน้องของคุณที่กำลังอยากรู้เรื่องนี้พอดี
เขียนบทความสั้นๆสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้มา
หรือแม้แต่ทำคอร์สออนไลน์เป็นของตัวเอง
คำถามชวนคิด
"ฉันจะสอนเรื่องนี้ให้คนอื่นต่อได้อย่างไร"
4. ทบทวนซ้ำเมื่อเวลาผ่านไป
ในจิตวิทยาการเรียนรู้มีหลักการที่ชื่อว่า Spaced Repetition
ซึ่งกล่าวว่าการทบทวนบทเรียนโดยเว้นระยะเวลามากขึ้นในแต่ละครั้ง เช่น 1 วัน 3 วัน 7 วัน 14 วัน
จะทำให้ข้อมูลนั้นถูกเอาไปเก็บไว้ในความจำระยะยาว
มีซอฟต์แวร์ที่นำหลักการนี้ไปใช้ เป็นเครื่องมือช่วยในการเรียน เช่น Anki และ SuperMemo
โดยเราสามารถตั้งคำถามและคำตอบในเรื่องที่เรียน เพื่อทดสอบตัวเอง
แล้วโปรแกรมจะคำนวณ และเตือนเราเมื่อถึงเวลาควรจะทบทวนอีกครั้ง
ใช้ในการท่องจำได้ผลดีมาก เช่น การจำคำศัพท์ เวลาเรียนภาษา
เราก็สามารถนำหลักการนี้มาใช้ได้เช่นกัน
กางปฏิทินเพื่อจัดเวลาในการซ้อมและทบทวนเรื่องที่คุณเรียนมา อย่างเป็นระบบ
เพื่อทำให้ความสามารถนั้นอยู่กับคุณตลอดไป
คำถามชวนคิด
"ฉันจะวางแผนในการซ้อม และทบทวนเรื่องนี้อย่างไร"
ตัวอย่างเช่น นายสมชาย อยากมีแฟนเพจเป็นของตัวเอง เพื่อหารายได้อีกทาง โดยมีเป้าหมายคืออยากเก็บเงินซื้อบ้านให้ครอบครัว
นายสมชายจะตอบคำถาม 4 ข้อด้านบนอย่างไร
1. หาคนทำธุรกิจผ่านเฟสบุคแฟนเพจที่ประสบความสำเร็จมากๆ แล้วมาเปิดคอร์สสอน
2. เริ่มเปิดแฟนเพจของตัวเอง และสำรวจตลาดเบื้องต้น
3. ไปสอนนายสมศักดิ์ต่อ เป็นเพื่อนที่อยากขายของออนไลน์เหมือนกัน
4. กลับมาเปิดดูคอร์สออนไลน์ซ้ำอีกครั้งหลังจบคอร์สไป 1 สัปดาห์และ 1 เดือน
ผมเชื่อว่า ถ้าคุณตอบคำถาม 4 ข้อข้างบนได้
คุณจะมีแผนการ และสิ่งที่ต้องทำ อย่างชัดเจนมากขึ้น
ในการพัฒนาความรู้หรือทักษะที่สำคัญกับเป้าหมายชีวิตของคุณ
ทีนี้ก็เหลือแค่การลงมือทำตามนั้น
ซึ่งจะพาคุณจากมือใหม่ ไปสู่ผู้เชี่ยวชาญ ในเรื่องที่คุณอยากเป็นได้แน่นอนครับ