สวัสดีครับ เพื่อนๆทุกคน ผ่านพ้นไปแล้วสองสัปดาห์ของปีใหม่ เข้าสู่เทศกาลวันเด็กกันอีกครั้ง วันนี้ทีมงาน SkillLane เลยอยากจะมาพูดถึงว่าการที่เรา “คิดแบบเด็ก” จะช่วยส่งผลดีต่อการเรียนรู้ของเราอย่างไรกันบ้าง ? ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลย
1.กล้าคิด ไม่ปิดกั้น
เด็กๆมีข้อดี คือ ความไม่รู้และมีจินตนาการเยอะ เราทุกคนเคยผ่านช่วงเวลาในวัยเด็กมา ตอนเป็นเด็กเวลาคุณครูถามว่าโตขึ้นอยากจะเป็นอะไร คำตอบก็มีมากมายหลายอย่าง อาทิ ครู ตำรวจ ทหาร พยาบาล หมอ วิศวกร (หลายอย่างตรงไหนหว่า ฮ่าๆ ล้อเล่นครับผม เวลาตอบในห้องเรียนส่วนมากคำตอบก็จะออกมาซ้ำๆกันแนวๆนี้ แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนเชื่อว่าจริงๆแล้วเด็กๆรู้ว่าโลกเรามีอาชีพมากมายกว่านั้นอีกมากจากการสังเกตสิ่งรอบๆตัว เช่น ตอนเด็กๆผู้เขียนเวลาแวะไปปั๊มน้ำมัน ก็จะวิ่งลงไปดูพนักงานเติมน้ำมันกดเครื่องอะไรก็ไม่รู้ เสร็จแล้วก็เอาน้ำมันมาเติมรถที่คุณพ่อบอกว่าเค้าหิวข้าว พอเติมเสร็จรถคันเก่งก็กลับมามีพลังพาเราออกเดินทางอีกครั้ง เลยรู้สึกว่าเป็นอาชีพที่เท่และโตขึ้นอยากจะเป็นเด็กปั๊มมากๆ)
พอเราโตขึ้นมาเรากลับถูกจำกัดด้วยอะไรหลายๆสิ่งหลายอย่างจนทำให้เราลืมความสนุกของการกล้าคิด กล้าฝันตอนเด็กๆไป วันนี้วันเด็กเป็นเลยอยากจะเชิญชวนให้ผู้อ่านทุกๆท่านลองกลับไปนึกถึงความฝันของตัวเองในวัยเด็กอีกครั้งดูนะครับ เอามันมาปัดฝุ่นแล้วมาทำมันให้เป็นจริงกันดีกว่า!!
(ลองไปเป็นเด็กปั๊มดูแบบผมก็ได้นะครับ ^^)
2. อะไรๆก็น่าสนใจ แล้วทำไมไม่ลองเข้าไปถาม ?
วัฒนธรรมในที่ทำงาน หรือ งานประชุมต่างๆ ในประเทศที่สามารถสังเกตอย่างเห็นได้ชัดก็คือผู้ใหญ่แบบเราๆไม่ค่อยกล้าแสดงออกความคิดเห็นของตัวเอง เนื่องด้วยกลัวสายตาที่คนอื่นมองมา กลัวว่าเราจะถามอะไรที่ดูไม่ดีออกไป เป็นต้น ซึ่งหลายๆครั้งมันก็ทำให้เราพลาดโอกาสดีๆไป จากประสบการณ์ส่วนตัว ผู้เขียนเชื่อว่า คนเก่งๆหลายท่านเป็นคนทีใจดี และยินดีที่จะแบ่งปันพร้อมให้เราเข้าไปถามอยู่แล้ว อยู่ที่เราตัวเราจะต้องกล้าแสดงความคิดเห็นของเรา การทำแบบนี้ช่วยให้เราถูกมองว่าเรามีความสนใจในหัวข้อที่กำลังสนทนากันอยู่อีกด้วย
3.เรียนรู้ดี เพราะมีความสุข
เราไม่จำเป็นสุขแบบมีเหตุผลเสมอไปก็ได้ครับ เช่น การที่เราเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างอาทิ วาดรูป ฝึกทำตุ๊กตาหมีแฮนเมคด์ บางคนอาจจะนึกว่าไม่เห็นจะเกี่ยวกับงานที่เราทำอยู่ตอนนี้เลย ซึ่ง ผมอยากจะให้คุณลืมมันไปชั่วขณะ และก็ลองหาความสนุกจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้าดู (ถ้าเราไม่ชอบมันทีหลังก็แค่ไม่ทำแล้ว แต่อย่างน้อยก็ถือว่าได้ลองทำสิ่งใหม่ๆดู )
ผู้เขียนเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า การที่เราจะรู้ว่าเราชอบอะไรไม่ชอบอะไรมาจากการได้ทดลองทำหลายๆสิ่งดู จนกระทั่งเราพบสิ่งที่เราทำได้ดีและมีความสุขขณะที่ทำแล้ว จงอย่าปล่อยให้มันผ่านเลยไป ลองดูว่าสิ่งที่เราชอบนั้นเกี่ยวข้องหรือสามารถเอาไปเป็นทักษะประกอบอาชีพได้หรือไม่ เพราะถ้าหากเราได้ทำงานในสิ่งที่เราชอบแล้ว เราย่อมจะทำมันได้ดี และเมื่อเราทำมันได้ดีเราก็ย่อมอยากจะพัฒนาให้มันดีขึ้น เป็นวงจรแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับหัวข้อในวันนี้หวังว่าจะมีประโยชน์และนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตกันนะครับ
เนื้อเรื่องในวันนี้อาจจะไม่ค่อยเกี่ยวกับชื่อหัวข้อสักเท่าไร ความจริง ชื่อหัวข้อในวันนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพลงโปรดเพลงหนึ่งของผู้เขียน ที่มีชื่อว่า พื้นที่เล็กๆ โดย คุณบอย ตรัย ภูมิรัตน์ เป็นเพลงที่เพราะและมีเนื้อหาดีมากๆ
ขอให้ผู้อ่านทุกท่าน อย่าปล่อยให้ใครก็ตามเอาความเป็นเด็กในตัวเราไปได้นะครับ
มีความคิดเห็นหรือประเด็นอะไรที่อยากจะให้ทาง SkillLane นำมาเขียนสามารถติดต่อผ่านทาง Fanpage ได้เลยนะครับ แล้วพบกันใหม่ สุขสันต์วันเด็กครับ